artist : Bodyslam
album : วิชาตัวเบา
Art Direction : Dogkillmen
Design : Dogkillmen , Nobinob
Photo : Ake Nupat
จาก คราม เดินทางไป ดัมมะชาติ และตอนนี้มาหยุดที่ วิชาตัวเบา
มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดมาก
อัลบั้มนี้เป็นเหมือนการเดินทางอีกแบบ ไม่ได้ไปในทางลึกหรือซับซ้อน เป็นเหมือนคนที่มีวุฒิภาวะสูงขึ้น เข้าใจโลกมากขึ้น หลุดออกมาจากคำถามการหาคำตอบที่ไม่มีคำตอบ แต่เป็นการทำความเข้าใจและอยู่กับสิ่งนั้นให้ได้อย่างมีความสุข ส่วนตัวมองว่าเป็นตอนที่หักมุมของวง bodyslam
ได้คุยกับพี่ตูนตอนประชุมอัลบั้ม key message ที่เข้ามาในหัวเลยคือ ผิดที่ผิดทาง ไม่ต้องการความถูกต้อง ไม่เป๊ะ เพื่อสร้างสิ่งใหม่ที่วงไม่เคยมี
งานนี้ไม่มีการกาง reference ว่าจะเป็นไปในทิศทางไหนดี มีแต่หา reference ว่างานที่เราคิดไปเหมือนใครมั้ยจะได้เลี่ยง
ผมคิด art direction ของอัลบั้มนี้มาประมาณ 10 direction มีบางอันชอบมากๆ แต่ไม่ได้ถูกนำมาใช้ เพราะมันไปใกล้เคียงกับภาพของปกวงต่างประเทศแบบไม่ตั้งใจ
art direction ที่ใช้จริงอันนี้ (ว่าว) เกิดขึ้นโดยบังเอิญมากๆ พี่ตูนบอกว่า อัลบั้มนี้อยากได้อะไรที่เบาๆ เหมือนก้อนเมฆ โจทย์อัลบั้มนี้มีแค่นั้นเลย แต่ส่วนตัวมองว่าถ้าจะเอาก้อนเมฆท้องฟ้ามาขึ้นปก มันก็ดูซื่อจนไม่น่าสนใจ (อันนี้เป็นรสนิยมทางความคิดแบบส่วนตัว)
ใช้เวลาคิดหลายอาทิตย์ คิดตลอดเวลา ออกไปดูนั่นนี่ เผื่อได้ไอเดีย จนได้ไปทะเลกับครอบครัว เดินเล่นคิดไปเรื่อยๆริมหาด เจอพ่อลูกคู่นึงกำลังเล่นว่าวอยู่ตรงหน้า ไอเดียมาเลย เฮ้ยยย ต้องว่าวว่ะ แม่งคือสิ่งที่หลายๆคนลืมไปแล้ว มันทั้งให้ความรู้สึกเบา มันลอยได้ แต่ก็ต้องใช้ความสามารถของคน ประสบการณ์ ความสามารถ บวกกับแรงลมที่เป็นตัวแทนของสภาวะและสภาพแวดล้อมในตอนนั้น ว่าวน่าจะเป็นสัญลักษณ์ที่เหมาะสมกับอัลบั้มนี้ หรือถ้ามองในมุมของคนลามกแบบผม "ถ้าอยากตัวเบา ก็ต้องชักว่าวสิคร้าบบบบ” ประโยคนี้เอาไปขายในที่ประชุมด้วยนะ ไม่คิดว่าจะผ่าน 5555
ถ้าใครซื้อ boxset ไปจะได้เห็นว่า ข้างในมีแผ่นใสที่เป็นรูป ว่าว รูปท้องฟ้าในสภาวะต่างๆ
ไอเดียนี้ได้มาจากพี่กบ big ass โทรมาหา “เฮ้ยเป๋ง ก้อนเมฆแม่งมีอารมณ์เหมือนมนุษย์ว่ะ บางวันก็สดใส บางวันก็มืดครึ้ม บางทีมีฟ้าผ่า พายุเข้า แล้วเมฆหลังฝนมันก็เปิดสวยงาม ประมาณนี้นะ เผื่อมึงได้เป็นไอเดีย” วางสาย ...
โหหหห พี่ครับ สั้นๆ แต่โคตรเท่ นั่นแหละ เลยเอาไอเดียอันนั้นมาสร้างเป็นแผ่นใสอย่างที่เห็น
ส่วนตัวเราอยากให้คนซื้อไป ถ่ายรูปเมฆในแผ่นใสตามอารมณ์ของตัวเองกับท้องฟ้า ณ ตอนนั้น แล้วถ่ายรูปมาแชร์เรื่องราวกัน แบบสื่ออารมณ์ด้วยภาษาภาพ หรือสลับเปลี่ยนภาพใน booklet กับแผ่นใสด้วยก็น่าจะได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไปแบบคาดเดาไม่ได้
เราอยากใ้ห้คนที่ซื้อ boxset ได้มีปฏิสัมพันธ์กับ artwork ด้วย มากกว่าแค่เปิดดูเปิดอ่าน มันดูมีเรื่องราวดี
ส่วนในตัว booklet ตั้งใจเลยว่า จะจัดวางให้แตกต่างจากทุกๆอัลบั้มที่วงเคยทำมา ไม่มี grid ไม่มีความเรียบร้อย ไม่มี pattern ไม่สวย 555 อันหลังล้อเล่น ออกจะสวย 5555 เอาให้สนุก ให้หลุด ให้คาดเดาไม่ได้
รูปวงที่ถูกถ่ายออกมาต่างจากที่วงเคยทำมามาก ภาพศิลปินใน booklet ถูกวางซ้อนด้วยแผ่นใสของภาพศิลปินคนนั้น
ด้วยความตั้งใจที่อยากให้ดู 'ไม่มีอะไรแต่มีอะไร'
ส่วนภาพติดบัตรนี่คือแบบ สนุกมากตอนถ่าย มันดูจริงมากๆ เหมือนตอนถ่ายรูปนักเรียน
พี่ตูนบอก "เฮ้ย ห้ามรีทัชเลยนะ เอาแบบริ้วรอยเยอะๆย่นๆแบบนี้เลยริ้วรอยบนหน้าคนมันคือประสบการณ์ของคนคนนั้น "เยี่ยมครับพี่ พวกผมจะได้ไม่เหนื่อย 5555
ส่วนเรื่อง poster กับรูปติดบัตร random เนี่ย ไม่ได้ตั้งใจจะใช้แผนการตลาดแบบคนอื่นหรืออยากให้ซื้อเยอะๆจะได้ครบๆนะ
เหตุผลมันคือ รูปถ่ายออกมาเยอะมาก แล้วรักพี่เสียดายน้อง ไอ้นั่นก็ชอบ ไอ้นี่ก็ดี จะใส่ไปให้ครบ ก็เกินงบมาเยอะ
เลยกระจายๆกันไปดีกว่า แต่ละคนจะได้เห็นรูปแตกต่างกันไป แค่นั้นเลย แต่ก็ random แบบได้รูปศิลปินครบทุกคนใน 1 package มีมุขในที่ประชุมคุยกันว่า ถ้าไม่ได้จัดให้ครบทุกศิลปินใน 1 pack แล้วมีคน jackpot ได้รูปพี่ชัชหมดทั้ง5ใบ โคตรซวยเลยนะ 5555555 ฮากันลั่นที่ประชุม
ปกอัลบั้มผมกับทีมช่วยกันปรับเปลี่ยนแก้ไขออกแบบกันไปทั้งหมดเกิน 120 ปก ถือว่าเยอะสุดตั้งแต่ทำมา
มาสรุปที่ปกว่าวอันนี้ เหตุผลคือ อยากให้ปกดูไม่มีอะไรมากที่สุด เรียบๆนิ่งๆ แต่อยากให้ทุกอย่างเล่าเรื่องด้วย artwork ใน boxset ตามแนวคิด don't judge a book by its cover
ใครที่ถ่ายรูปแผ่นใสกับท้องฟ้า ยังไงฝาก post แชร์กันด้วยนะค้าบบบบ
ขอบคุณที่อ่านจบ
#รักคนอ่านจบ 😘😘😘😘
เป๋ง ชานนท์ #dogkillmen